วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เครื่องแสกนลายนิ้วมือ

ระบบเครื่องสแกนลายนิ้วมือ Fingerprint Scanner

ระบบเครื่องสแกนลายนิ้วมือ คือ ระบบที่ต้องใช้ลายนิ้วมือ ของบุคคลที่ได้รับการอนุญาต หรือบุคคลที่ได้ทำการบันทึกลายนิ้วมือ ลงไว้ในตัวเครื่องสแกนลายนิ้วมือ ที่ใช้ควบคุมระบบการทำงานต่างๆ แล้วซึ่งหากบุคคลใดไม่ได้มีการบันทึกลายนิ้วมือลงไว้ในตัวเครื่องสแกนลายนิ้วมือ ก็จะไม่สามารถเข้าไปใช้งานระบบที่ต้องมีการสแกนลายนิ้วมือนี้ได้ ส่วนระบบที่นำการสแกนลายนิ้วมือเข้ามาใช้ในการควบคุม เช่น
  • การใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือมาทำเป็นเครื่องลงเวลาการทำงาน ของพนักงานในองค์กร เพราะระบบจะทำการระบุตัวบุคคลได้ดีกว่า และแน่นอนกว่าระบบอื่น เพื่อป้องกันการลงเวลาทำงานแทนกันของพนักงาน
  • การใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือมาทำเป็น ระบบควบคุมการเข้า-ออก ของประตูสถานที่ต่างๆ ที่ไม่ต้องการให้บุคคลอื่นใดที่ไม่ได้รับอนุญาตผ่านเข้า-ออกทางประตูนั้นๆ อาทิเช่น ประตูหน้าเข้า-ออก ห้องบัญชีและการเงิน, ประตูห้องเก็บสินค้า, ประตูห้องควบคุมระบบต่างๆ เป็นต้น

ข้อดีของการใช้ลายนิ้วมือในการระบบตัวบุคคล

ลายนิ้วมือของแต่ละคนจะเริ่มปรากฏขึ้นตั้งแต่เป็นตัวอ่อนอายุ 3 ถึง 4 เดือนในครรภ์มารดา ซึ่งเป็นผิวหนังส่วนที่มีสัน (Ridge) และมีร่อง (Furrow) เอาไว้ใช้สำหรับอำนวยความสะดวกในการหยิบจับสิ่งของ สันและร่องที่ปรากฏนี้ จะมีคุณลักษณะที่สำคัญ 2 ประการคือ
  1. ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบตามกาลเวลา (แต่อาจจะเปลี่ยนขนาดได้)
    ลายนิ้วมือจะไม่เปลี่ยนแปลงรูปแบบ (Permanence) ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงกระทั่งวันที่เราตาย แต่ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงขนาดได้ตามขนาดของร่างกาย
  2. มีรูปแบบเฉพาะในแต่ละบุคคล การที่ลายนิ้วมือมีรูปแบบเฉพาะในแต่ละบุคคล (Individuality) เป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างหนึ่งของลายนิ้วมือ นับตั้งแต่เริ่มมีการใช้เก็บ และเปรียบเทียบลายนิ้วมือโดยวิธีสมัยใหม่ ซึ่งมีมาร้อยกว่าปีแล้ว ยังไม่มีการตรวจพบว่ามีการเหมือนกันของลายนิ้วมือ
ลายนิ้วมือของแต่ละคนนั้นจะมีลักษณะเฉพาะมากจนกระทั่งแม้แต่ (Identical Twin) ก็ยังมีลายนิ้วมือที่แตกต่างกัน (แต่มีรูปแบบ DNA ที่เหมือนกัน) อย่างไรก็ตามรูปแบบของลายนิ้วมือ นั้นก็จะมีลักษณะการคล้ายกันของคนในครอบครัว พรือพูดได้อีกอย่างหนึ่งว่า รูปแบบของลายนิ้วมือมีการถ่ายทอดกันทางพันธุกรรม
ลายก้นหอย Whorlลายมัดหวาย Loopลายโค้ง Arch
ลายก้นหอย Whorlลายมัดหวาย Loopลายโค้ง Arch
การตรวจสอบลายนิ้วมือโดยใช้คอมพิวเตอร์ ตรวจสอบลักษณะของสัน (Ridge) ตัวอย่างอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานด้วยการสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) อุปกรณ์สแกนลายนิ้วมือ ในปัจจุบันจะมีราคาถูกลงมาก และก็มีแนวโน้มว่าจะมีราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เนื่องมาจากความแพร่หลาย และการประยุกต์ใช้ลายนิ้วมือกันในงานด้านต่างๆมากขึ้น ส่วนราคาของเครื่องสแกนลายนิ้วมือในปัจจุบันก็จะมีราคาตั้งแต่ 10,000 - 30,000 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนของการรองรับลายนิ้วมือ ในการใช้งานของอุปกรณ์
หากคุณกำลังมองหาเครื่องสแกนลายนิ้วมือ เพื่อหวังว่าระบบนี้จะช่วยลดปัญหาการลงเวลาแทนกัน และค่าใช้จ่ายต่างๆของคุณลงไปได้ คุณคิดได้ถูกต้องแล้วครับ แต่ยังมีผู้ใช้จำนวนมากซึ่งใช้ระบบนี้ไปแล้วไม่ได้ผลอย่างที่คาดหวังเอาไว้ แทนที่จะช่วยลดเวลา, การทุจริตในการทำงาน และค่าใช้จ่าย แต่กลับหลายเป็นการเพิ่มปัญหาต่างๆ ตามมามากมายไม่เว้นแต่ละวัน เนื่องจากเครื่องสแกนลายนิ้วมือ ที่มีวางจำหน่ายทั่วไปเป็นเทคโนโลยีที่ใช้เทคนิคทางการประมวลผลแบบ Digital Image Processing ขั้นสูง ซึ่งการที่เราจะทราบได้ว่าลายนิ้วมือที่เรานำมาตรวจสอบนั้น คือ บุคคลใดในจำนวนลายนิ้วมือหลายๆ ร้อย หลายๆ พันคน ดังนั้นผู้ใช้จะพบปัญหาบ่อยครั้ง ในเรื่องของการที่คนๆหนึ่งมาสแกนแต่กลับกลายไปขึ้นชื่อของพนักงานอีกคนหนึ่ง หรือสแกนแล้วแต่เครื่องไม่อ่านอันเนื่องมาจาก เครื่องสแกนลายนิ้วมือมีคุณภาพต่ำ ปัญหาที่พบของผู้ใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือหลายราย คือ แทนที่การซื้อเครื่องสแกนลายนิ้วมือไปแล้ว จะเป็นการลงทุนเพียงแค่ครั้งเดียว โดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเรื่องอื่นตามมาอีก แต่เมื่อนำมาใช้กลับต้องมีค่าใช้จ่ายหมุนเวียนตามมาตลอด จากตัวหัวอ่านที่มีความทนทานต่ำ เช่น พวกหัวอ่านที่เป็นประเภทพลาสติกโพลีเมอร์
ในระบบเครื่องสแกนลายนิ้วมือ ส่วนหัวอ่านจะเป็นส่วนที่ได้รับการสัมผัสตลอดเวลา ดังนั้น หน้าเลนส์ จึงเป็นส่วนที่สำคัญมากในการใช้งาน หน้าเลนส์ แบบพวกวัสดุ ตระกูลโพลีเมอร์จะเป็นลักษณะคล้ายๆยาง เมื่อเกิดคราบสกปรกสะสมเราไม่สามารถทำความสะอาดได้ด้วยการเช็ดธรรมดา หรืออีกประการหนึ่ง คือหน้าเลนส์ไม่สามารถทนต่อการขีดข่วนจากของแข็ง หรือของมีคมได้ และถ้าเป็นการใช้งานกับผุ้ใช้ที่นิ้วมือมีคราบเคมี หรือเลอะน้ำมัน เช่น งานโรงงาน หรือไซต์งานก่อสร้าง เลนส์หน้าสัมผัสจำพวกโพลีเมอร์นั้น จะถูกกัดจนบวม และลอกออกมา ซึ่งเป็นผลทำให้เครื่องสแกนลายนิ้วมือไม่สามารถทำการสแกนได้ อีกประการหนึ่ง คือประเภทอ่านค่าความจุไฟฟ้าของลายนิ้วมือ หรือตระกูล Silicon Sensor การทำงานคือ เมื่อนำนิ้วมือไปสัมผัสกับหน้าเลนส์ที่เป็นโลหะ โดยตรงจะเกิดการถ่ายเทประจุผ่าน ลายนิ้วมือของเราเพื่อเก็บเป็นข้อมูล หัวอ่านประเภทนี้จะเกิดคราบสกปรกสะสม และเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย เป็นเหตุให้ต้องทำการซ่อมและเปลี่ยนหน้าเลนส์กันบ่อยๆ
สำหรับหัวอ่านที่ดีของเครื่องสแกนลายนิ้วมือ ควรเลือกใช้ที่เป็นแบบ Optical และ Optical CMOS หรือ URU4000 Sensor เพราะวัสดุหน้าเลนส์ของหัวอ่านพวกนี้จะทำจากแฟ่นกระจกเคลือบอย่างดี จะป้องกันคราบสกปรกได้ดี และยังป้องกันการขูดขีดจากของแข็งได้เป็นอย่างดี มีความคาดเคลื่อนในการอ่านลายนิ้วมือน้อยมาก

การเลือกซื้อเครื่องสแกนลายนิ้วมือสามารถแบ่งออกเป็นข้อๆได้ดังนี้

  1. หัวอ่าน (Sensor) ว่าสินค้านั้นใช้หัวอ่านแบบไหน?
  2. ความเร็วในการอ่านลายนิ้วมือ และใช้เทคโนโลยีใดในการอ่าน
  3. จำนวนลายนิ้วมือที่รองรับ และหน่วยความจำในการบันทึกการใช้งานของเครื่อง
  4. วัสดุที่ใช้ในการผลิตอุปกรณ์ ว่าแข็งแรงทนทานหรือไม่
  5. ส่วนของ Software ดูว่ามีฟังชั่นการใช้งานดีและยืดหยุดหรือไม่
  6. สินค้านั้นผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน ISO หรือไม่
  7. สินค้าได้ผ่านการทดสอบและได้รับการรับรองมาตรฐานจากสถาบันรับรองมาตรฐาน หรือไม่
    (มาตรฐานที่ทั่วโลกให้การยอมรับด้วยดีก็ เช่น UL, FC, CE, LPS เป็นต้น)
  8. คุณอย่าตัดสินใจที่ราคาเพียงอย่างเดียว เพราะสินค้าราคาถูกยังคงมีอะไรแอบแฝงอีกเยอะ คุณควรพิจรณาจาก
    • Perfomance = คุณสมบัติการทำงานของตัวสินค้า
    • Location Area = ระยะทางของบริษัทผู้ขาย กับสถานที่ๆ เราจะซื้อสินค้ามาติดตั้ง
    • Profile = ประสบการณ์และการชำนาญของบริษัทผู้ขาย
    • Warranty = การรับประกันตัวอุปกรณ์สินค้า และระบบ
    • After Sale Service = การบริการหลังการขาย ของบริษัทผู้ขาย
    • Price = ราคาสินค้าที่เหมาะสม ของภาพรวมสินค้าทุกๆ ข้อที่กล่าวมา

แหล่งที่มา : http://885yes.com/fingerprint-scanner-intro.html

วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อุปกรณ์ประมวลผล

อุปกรณ์ประมวลผล ( Process Device)



  อุปกรณ์ประมวลผล ทำหน้าที่ในการควบคุมการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผล จะประกอบด้วย
         - ซีพียู ( CPU - Central Processing Unit) เป็นอุปกรณ์หลักในการประมวลผลภายในคอมพิวเตอร์ มีหน้าที่ควบคุมและประมวล ผลจากอุปกรณ์นำ ข้อมูลเข้า ( Input Device) แล้วส่งผลลัพธ์ออกไปยังอุปกรณ์แสดงผล ( Output Device)

ที่มา :
 http://www.adslcool.com/computer/viewrecord.php?id=104

         - หน่วยความจำหลัก ( Primary Storage)มี หน้าที่ในการเก็บข้อมูลหรือชุดคำสั่ง หน่วยความจำหลักแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
            1. หน่วยความจำแบบ Rom (Read Only Memory) เป็นหน่วยความจำที่ไม่จำเป็นต้องใช้ไฟเลี้ยง ข้อมูลหรือชุดสั่งก็จะไม่สูญหาย ( non-volatile Memory) เช่น โปรแกรม ไบออส
 
ที่มา : 
 http://zonehardwares.siam108site.com/mainmemory1.html

            2. หน่วยความจำแบบ Ram (Random Access Memory) เป็นหน่วยความจำ ที่ตัองอาศัยกระแสไฟฟ้าเลี้ยง ข้อมูลไม่สูญหาย (Volatile Memory)

ที่มา :
 http://www.fm100cmu.com/blog/IT/content.php?id=720


         - เมนบอร์ด ( Main Board) เป็นแผงวงจรต่อเชื่อมอุปกรณ์ การทำงานทั้งหมดของคอมพิวเตอร์ ภายในเมนบอร์ด จะมี เส้นแผงวงจรเป็นเส้นทองแดง เรียกว่า บัส เพื่อใช้ในการส่งสัญญาณไฟฟ้าระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ภายในเครื่อง ให้สามรถทำงานร่วมกันได้

ที่มา :
  http://www.overclockzone.com/spin9/review/mainboard/gigabyte/965p-dq6-pv


         - ชิปเซต ( Chip Set) ทำหน้าที่เป็นตัวกลางประสานงานการทำงาน

ที่มา : 
http://mail.vcharkarn.com/vblog/17896/4
 
แหล่งข้อมูล :  http://learners.in.th/blog/toomny/164117

วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Stardock Fences

Fences

      Fences เป็นโปรแกรม ที่มีทั้งเวอร์ชั่นฟรีแวชร์และแชร์แวร์
ใช้สำหรับจัดระเบียบสังคมให้กับหน้าจอของท่าน ช่วยในการค้นหา icon บนหน้าจอ desktop ของทั้งได้ง่ายขึ้น
โดยโปรแกรมนั้น จะสร้างหมวดหมู่ ขึ้นมาเองและจะย้าย icon ทั้งหลายๆ นั้น เข้าไปอยู่ใน หมวดหมู่ต่างๆ เช่น Programs Shortcut DATA ต่างๆ เพื่อช่วยในการจัดไฟล์ เพื่้อเพิ่ม พื้นที่ ของหน้าจอ desktop ของท่านให้ดูสบายตามากขึ้น



           ถ้าคุณมีหน้าจอ desktop ที่ยุ่งเหยิง และมี icon ต่าง ๆ บนหน้าจอเยอะแยะมากมายไปหมด Fences ช่วยคุณได้
Fences เป็น free software ที่พัฒนาโดย Stardock ผู้พัฒนาโปรแกรมดังอย่าง ObjectDock โดยโปรแกรม Fences นี้จะทำให้คุณสามารถจัดการกับ icon ต่าง ๆ บนหน้าจอได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การทำงานหลัก ๆ นั้น Fences จะช่วยคุณจัดระเบียบของ icon บน desktop โดยสร้างสิ่งที่เรียกว่า container ขึ้นมา ซึ่งคุณสามารถนำ icon ต่าง ๆ แยกไปวางไว้ในแต่ล่ะ container ทำให้เกิดความเป็นระเบียบของ icon และเป็นการเป็นกลุ่มแบ่งประเภทของ icon ด้วยเช่นกัน

stardockfences




กระชับพื้นที่  
สร้างขอบเขต หรือ กลุ่มให้ไอค่อน ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย
วิธีการสร้าง คือ คลิ๊กเมาส์ขวา แล้วลากขนาดพอประมาณ (สามารถปรับแต่งขนาดได้ภายหลัง) 
เมื่อปล่อยเมาส์ จะขึ้นข้อความมาให้เรากด create new Fence here เราก็กดตรงนั้นเลย
ใส่ชื่อหมวดหมู่ซะ...
จากนั้น...
แค่ลาก สารพัดข้อมูลหน้า desktop ลงไปในช่องที่ทำไว้ 

แหล่งที่มา : http://www.xgn.in.th/xsense/showthread.php?t=6932


วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Internet TV

 Internet TV 

Smart TV / Internet TV โดยทั่วไปคือทีวีที่ "ฉลาด" มากขึ้นนั่นเอง ด้วยความสามารถของตัวเครื่อง ( Spec ) ที่สูงมากขึ้น สามารถใช้งานแอพพลิเคชั่น ( โปรแกรม ) ได้หลากหลาย  สามารถเชื่อมต่อเข้าใช้งานในโลกออนไลน์ Internet อย่างการใช้ Web Browser , Social Network และอื่นๆ ตามฟังก์ชั่นของ Smart TV / Internet TV แต่ละรุ่น

ในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีของ TV นั้นพัฒนาไปไกลมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ LCD TV , LED TV , PLASMA TV เชื่อว่าหลายๆท่านคงได้พบเห็นตามร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้ากันเยอะแล้ว และในปัจจุบันนี้ทีวีจะไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือที่เอาไว้รับชมรายการโทรทัศน์หรือดูหนังเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ยังก้าวเข้าสู่โลกของการเชื่อมต่ออย่าง " Internet "  การใช้แอพพลิเคชั่นที่หลากหลายช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน ความสามารถในการเล่นเกมส์ การจองตั๋วภาพยนต์ และอื่นๆอีกมากมาย ทุกอย่างรวบรวมไว้แค่ปลายนิ้วสัมผัส



 


Smart TV คืออะไร ??

ก่อนจะพูดถึงคำว่า " Smart TV " ผมขอยกตัวอย่างไปถึงคำว่า Smart ที่อยู่ใกล้ตัวเรามากที่สุด เพื่อให้เข้าใจกันได้ง่ายขึ้น นั่นก็คือ " Smart Phone " ที่ทุกท่านรู้จักกันดีนั่นเอง เริ่มจากเมื่อก่อนนี้ โทรศัพท์มือถือก็มีความสามารใช้รับสายโทรเข้าเพียงอย่างเดียว แต่ในปัจจุบันก็มีโทรศัพท์มือถือที่มีความสามารถเพิ่มมากขึ้น ทั้งกล้องถ่ายรูป เครื่องเล่นเพลงต่างๆ เชื่อมต่อกับ Internet ดูคลิปวีดีโอ ลงแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมอย่างหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น iOS ของ Apple หรือ Android จาก Google นั่นคือที่มาของคำว่า " Smart Phone " 

 

กลับมาถึงทางด้าน " Smart TV " ก็เช่นเดียวกันครับ เมื่อก่อนทีวีที่ใช้กันตามบ้านก็มีการใช้งานเพียง ดูละคร ดูหนัง ดูข่าว เท่านั้น ยังไม่มีฟังก์ชั่นที่ใช้งานได้หลากหลายต้องพึ่งแหล่งข้อมูลจากภายนอกเพียงอย่างเดียวในการแสดงผลเช่น เครื่องเล่น DVD เครื่องเกมส์ Console ต่างๆ แต่ในปัจจุบันกล่าวได้ว่าเป็นทีวีที่ "ฉลาด" มากขึ้นนั่นเอง ความสามารถของตัวเครื่องสูงมากขึ้น สามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นได้หลากหลาย  โดยส่วนใหญ่แล้วความสามารถทั้งหมดจะใช้งานได้ด้วยการท่องไปในโลกออนไลน์ แต่ก็ไม่ได้จำกัดแค่การเชื่อมต่อ Internet เพียงอย่างเดียว ยังรวมไปถึงการใช้งานอื่นๆเช่นการเล่นเกมส์ ( โดยไม่ต้องเชื่อมต่อ Internet ) การลงแอพพลิเคชั่นต่างๆ มาใช้งาน ซึ่งในแต่ละแบรนด์จะมีความสามารถในการใช้งานและชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป ผมขอแยกไว้ตามนี้ครับ


   

 














Smart TV , Internet TV นั้น ย่อมต้องการ Internet เข้ามาเชื่อมต่อเพื่อการใช้งานอัพเดทข้อมูลข่าวสารในโลกออนไลน์ การใช้งานเว็บบราวเซอร์ หรือดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมาใช้งานในตัวเครื่อง ซึ่งทีวีแต่ละรุ่นก็มีการเชื่อมต่อไม่เหมือนกัน มาดูกันครับว่าสามารถเชื่อมต่อได้อย่างไรบ้าง

ประเภทของการเชื่อมต่อ Internet ของ Smart TV , Internet TV แบ่งได้ 3 ประเภทก็คือ


1. เชื่อมต่อผ่านสาย LAN  ( Wired - ใช้สาย ) 2. เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi Adapter USB  ( Wireless - ไร้สาย )3. เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi Built-in ในตัวเครื่อง ส่วนมากจะมีในเฉพาะรุ่นสูงๆเท่านั้น  ( Wireless - ไร้สาย )

ซึ่งหลังจากเชื่อมต่อผ่าน WiFi ในวงเดียวกันแล้วบางรุ่นจะมีความสามารถในการแชร์ไฟล์จากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆเช่นเพลง วีดีโอต่างๆ เพื่อมาแสดงผลทางหน้าจอทีวีได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Notebook , กล้องถ่ายรูป Digital , โทรศัพท์ Smart Phone รุ่นต่างๆ


Application on Smart TV :
สำหรับทีวีบางรุ่นนั้นจะมีความสามารถในการติดตั้งใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆได้ เช่น Samsung / LG / Philips ในจุดนี้เองท่านที่เคยใช้งาน Smart Phone ทั้ง Android หรือ iOS จะคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะว่าใช้หลักการเดียวกัน คือเมื่อเราต้องการใช้งานตัวไหนก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นจาก Server กลางของแต่ละค่ายได้ทันที และที่สำคัญคือไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ แอพพลิเคชั่นบางชนิดเมื่อดาวน์โหลดมาแล้ว การใช้งานในครั้งต่อไปก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อ Internet อีก เช่น เกมส์ต่างๆ แต่สำหรับรุ่นที่ไม่สามารถเข้าไปดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้ ก็สามารถอัพเดทผ่านทางเฟิร์มแวร์ของตัวเครื่องได้เช่นกัน ( วิธีการอัพเฟิร์มแวร์ก็ง่ายมาก เพียงแค่เชื่อมต่อ Internet ไว้และไปที่เมนูอัพเดท ซอฟแวร์ ในการตั้งค่าทีวี ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที ) ส่วนประเภทของแอพพลิเคชั่นต่างๆผมขอแบ่งออกเป็น 2 ส่วนก็คือ

1. Local Content : คือแอพพลิเคชั่นต่างๆที่เป็นของคนไทย ภาษาไทย ใช้งานได้อย่างสะดวกเช่น MTHAI , Major Cineplex , SF Cinema , Traffy , Nation Channel

2. Global Content : คือแอพพลิเคชั่นที่เป็นสากลใช้กันทั่วโลก ยกตัวอย่างเช่น Youtube , Facebook , Skype

ท่องเว็บไซต์ต่างๆไปพร้อมกับ Web Browser : 
 

อีกหนึงความสามารถของ Smart TV ,  Internet TV นั่นก็คือ การเข้าเว็บไซต์ต่างๆได้อย่างอิสระ เสมือนว่าเราเปิดจากคอมพิวเตอร์เลยทีเดียว โดยจะไม่ต้องเสียเวลาเชื่อมต่อให้วุ่นวาย แต่ว่าข้อจำกัดอย่างการพิมพ์ภาษาไทย ต้องใช้อุปกรณ์ควบคุมอื่นเข้ามาเป็นตัวช่วย ซึ่งผมจะอธิบายในส่วนต่อไปครับ และการแสดงผลอย่าง Flash หรือ Java Script ก็ทำได้ค่อนข้างสมบูรณ์ ( ยกเว้นบางรุ่นเท่านั้น ซึ่งในอนาคตอาจจะมีเฟิร์มแวร์ออกมาช่วยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น )


การควบคุม Smart TV , Internet TV ในรูปแบบต่างๆ
มาต่อกันที่ส่วนของการควบคุมกันครับ หลายๆท่านอาจจะยังสงสัยว่า " เอ๊ะ ! ฟังก์ชั่นของทีวีนั้นมีเยอะมาก แต่ปุ่มในรีโมทมันเป็นแค่ตัวเลข และปุ่มทิศทางเท่านั้น เวลาพิมพ์จะสะดวกหรือเปล่า "  จริงๆแล้วการควมคุมให้ง่ายขึ้นก็เป็นเรื่องที่ทางแต่ละยี่ห้อต้องพยายามปรับตัวเข้าหาผู้บริโภคอย่างเราๆกันให้มากที่สุด เพื่อให้มีความสะดวกสบายในการใช้งาน เพราะความยากง่ายในการควบคุมทีวีก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยตัดสินใจเลือกซื้อ Smart TV เช่นกัน

1. ควบคุมจากรีโมททีวี : โดยปกติแล้วทุกยี่ห้อจะคล้ายๆกันทั้งหมด อาจจะแตกต่างกันในด้านการวางตำแหน่งและดีไซน์ ที่ขาดไม่ได้ก็คือ ปุ่มควบคุมทิศทาง จะใช้ในการเลื่อนตำแหน่งไปยังส่วนที่ต้องการ และปุ่ม OK เพื่อใช้เลือก วิธีการพิมพ์ก็จะทำได้แค่ "ภาษาอังกฤษ" เท่านั้น โดยใช้ปุ่มตัวเลขเป็นแป้นคีย์บอร์ด ( เช่นเลข 2 บนรีโมทจะมี A B C  ถ้าต้องการพิมพ์ C ให้กดเลข 2 จำนวน 3 ครั้ง )


ตัวอย่างรุ่น LW6500
 
2. ควบคุมจากอุปกรณ์เสริมของแต่ละค่าย : ในจุดนี้ก็ขึ้นอยู่กับแบรนด์ต่างๆ ที่จะมีลูกเล่นอะไรมาดึงดูดลูกค้า ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน มาดูอย่างแรกกันครับจาก Samsung ช่วยทำ Qwerty คีย์บอร์ดมา เวลาใช้งานด้านการพิมพ์ค้นหาต่างๆก็ทำได้อย่างสะดวก 



 
ถัดมาก็คือตัว Magic Motion Remote จากทาง LG ที่ใช้รีโมทเป็นตัวชี้ไปยังหน้าจอทีวี และใช้ปุ่มเพียงปุ่มเดียวควบคุมได้ทุกอย่าง ง่ายต่อการใช้งานอีกเหมือนกัน ( คล้ายๆกับการใช้งานของ Nintendo Wii )
 


 
3. ควบคุมจาก Application บน Smart Phone : สำหรับวิธีนี้ต้องการ Smart Phone รุ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบ Android หรือว่า iOS ก็สามารถเข้าไปค้นหา แอพพลิเคชั่น รีโมท จากทาง Android Market หรือ App Store ได้ฟรี ข้อดีคือจะทำให้สามารถพิมพ์ " ภาษาไทย " ได้ และมีความคล่องตัวในการใช้งานมาก โดยการเชื่อมต่อนั้นจะต้องเชื่อมต่อผ่านวง LAN เดียวกันกับตัวทีวีด้วยครับ
 


แอพพลิเคชั่นที่น่าสนใจ ห้ามพลาด !! ถ้าคุณใช้ Smart TV, Internet TV
แอพพลิเคชั่นสำหรับ Smart TV , Internet TV มีให้เลือกใช้มากมาย ทีวีบางยี่ห้อนั้นมีให้เลือกกว่า 1,000 แอพเลยทีเดียว แต่สำหรับอันที่เป็นที่นิยมผมก็ขอรวบรวมมาแนะนำให้เลือกใช้กันครับ 

1. Facebook : 
อย่างแรกเลยที่ขาดไม่ได้สำหรับยุคนี้ก็คือ Social Network ยอดฮิตอย่าง Facebook นั่นเอง ถือว่าเป็นแอพพลิเคชั่น "ยอดนิยม" สำหรับทุกเพศทุกวัย โดยประมาณ 90% ของ Smart TV จะมีติดมาให้อยู่แล้ว ซึ่งเราสามารถเข้าไปเช็ค New Feeds หรือทำการ Update สถานะได้ทันที รวมไปถึงการคอมเม้นท์ในวอล์ต่างๆ และในบางรุ่นจะสามารถดูทีวีไปพร้อมๆกับเล่น Facebook ได้อีกด้วย แอพพลิเคชั่นจะขึ้นมาอยู่ด้านข้างของจอภาพ ใช้งานได้อย่างสะดวก รวดเร็ว
 

 

ตัวอย่างการใช้งาน Facebook พร้อมๆกับดูทีวีไปด้วย 
 
2. Youtube : สำหรับ Youtube นั้น น้อยคนที่จะไม่รู้จัก เพราะเป็นอีกหนึ่งแอพพลิเคชั่นที่ "ขาดไม่ได้" สำหรับ Smart TV ในปัจจุบัน ซึ่งสามารถเข้าไปรับชมคลิปวีดีโอต่างๆได้จากทั่วโลก สามารถค้นหาคลิปวีดีโอที่ต้องการได้ด้วยการใช้เมนูคีย์บอร์ดในตัวเครื่อง พิมพ์คีย์เวิร์ดที่ต้องการลงไป ก็จะได้รายชื่อคลิปวีดีโอที่ต้องการมารับชม


การใช้งาน Youtube Application

3. Accu Weather : เป็นแอพพลิเคชั่นที่ใช้ในการพยากรณ์อากาศ โดยที่เราสามารถระบุตำแหน่งของสถานที่ ที่เราต้องการทราบสภาพอากาศได้ โดยส่วนใหญ่จะมีมาให้ในตัวเครื่อง
 

 
4. Skype : อีกหนึ่ง Application ที่มีประโยชน์มากในการสนทนาทั้งภาพและเสียงไปพร้อมๆกัน นั่นก็คือ Skype ครับ ซึ่งต้องอาศัยตัวกล้องที่เชื่อมต่อผ่านช่องต่อ USB มาใช้ควบคู่กันไป จะแตกต่างจากที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ก็คือ ในตัวกล้องจะมีไมโครโฟนรับเสียงอยู่ในตัว ไม่จำเป็นต้องไปต่อเพิ่มแล้ว แถมได้ภาพใหญ่จุใจ เห็นกันชัดๆข้ามโลก อีกด้วย
 

มาดูตัวอย่างการใช้งานกันครับ


จอเล็กๆคือไว้ดูตัวเราเอง ส่วนจอใหญ่ก็คือคู่สนทนาของเรา ตัวกล้องจะอยู่ด้านบนทีวี
 
 5. SF Cinema : เป็นหนึ่งใน Local Content ที่สามารถดูรายละเอียดของหนัง และเช็คเวลาฉายของหนังได้  ถือเป็น Content โดยคนไทย เพื่อคนไทยจริงๆ


 
6. Game : โดยส่วนมากแล้วเกมส์ที่มาให้เล่นกับทีวีนั้นจะเป็นเกมส์แนว "สดใส คลายเครียด ใช้สมองนิดๆ" ครับ ถือว่าใช้เล่นแก้เบื่อได้ดีทีเดียว โดยจะไม่เหมือนกันในแต่ละยี่ห้อ ยกตัวอย่างมาให้ดูเป็นบางเกมส์นะครับ จริงๆมีเยอะกว่านี้อีกมาก
 

SUDOKU เกมส์ใช้สมอง ลองปัญญา


 "Dracula's Coffin" เกมส์เลื่อนลังไม้


ที่เห็นเลื้อยๆแบบนี้ "บันไดงู" นั่นเองครับ


สุดคลาสสิกกับ "เกมส์จับผิด"

 
 ที่แนะนำไปก็เป็นเพียงแค่ "บางส่วน" ของ Smart TV เท่านั้นเองครับ ยังมีอีกหลายแอพพลิเคชั่นที่น่าสนใจ น่าใช้ แต่ว่าในการเลือกซื้อ Smart TV มาใช้ ควรจะศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนว่าตรงตามความต้องการของเราหรือไม่ เพราะในแต่ละยี่ห้อก็มีสิ่งที่ "ทำได้" และ "ทำไม่ได้" จะฟันธงว่า Smart TV , Internet TV เครื่องไหนดีที่สุดนั้น ค่อนข้างลำบาก ผมบอกได้ว่า "ดีหมด" แต่ ดีคนละอย่าง เช่น บางยี่ห้อสามารถลงแอพเพิ่มได้ แต่อีกยี่ห้อหนึ่งสามารถดูทีวีไปพร้อมๆกับเล่น Facebook อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม Smart TV , Internet TV ก็ถือเป็นอีกก้าวของเทคโนโลยีที่ยังคงพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ แน่นอนครับ